ลำดับเหตุการณ์ตามวันและวันเวลา ของ การชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภาไทย 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551

วันที่ 6 ตุลาคม

  • 19.00 น. กองบัญชาการตำรวจนครบาลจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลจำนวน 2 กองร้อย เตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้ารัฐสภา รวมกับกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลที่มีอยู่โดยรอบทำเนียบ รวมทั้งสิ้น 7 กองร้อย จำนวน 1,050 นาย
  • 19.55 น. กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 4,000 คน เดินทางถึงหน้ารัฐสภา ปิดล้อมทั้งด้านถนนอู่ทองใน และถนนราชวิถี
  • 22.30 น. ผู้ชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาล ประมาณ 40,000 คน ส่วนหน้ารัฐสภา 4,000 คน กำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลที่ปฏิบัติอยู่ ณ ขณะนี้มีรวม 12 กองร้อย จำนวน 1,800 นาย ฝ่ายสืบสวนปะปนกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งที่ทำเนียบและรัฐสภา เกาะติดด้านการข่าว บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว
  • 23.00 น. มีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษขึ้น โดยนัด พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เข้ารายงานสถานการณ์และสั่งการให้รักษาความสงบ

วันที่ 7 ตุลาคม

  • 00.30 น. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (มก.) สั่ง ตำรวจภูธรภาค 1 , 2 , 7 และ ตำรวจตระเวนชายแดน จัดกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลเพิ่มอีกหน่วยละ 3 กองร้อย รวม 12 กองร้อย ปฏิบัติภารกิจวันที่ 7 ตุลาคม เวลา 03.00 น. เป็นต้นไป
  • 01.30 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ประกาศจะไม่ให้มีการประชุมรัฐสภา ผู้ชุมนุมบริเวณทำเนียบ 37,500 คน, รัฐสภา 5,250 คน
  • 01.40 น. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.บุญฤทธิ์ รัตนพร พร้อมด้วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ. รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ. (มก) รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ. (มก.2) ประชุมติดตามสถานการณ์ ณ ศปก.น.
  • 02.20 น. ผู้ชุมนุมบริเวณทำเนียบ 37,500 คน , รัฐสภา 5,700 คน
  • 04.30 น. พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล /รอง ผบ.เหตุการณ์ พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมซักซ้อมการปฏิบัติร่วมกับ รอง ผบก./ผบ.ร้อย ผู้ควบคุมกำลัง
  • 05.50 น. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังคงถกเครียดประเมินสถานการณ์พันธมิตรปิดรัฐสภา หลังพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เดินทางมาหารือด่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะตำรวจตระเวนชายแดนเริ่มตั้งแถวเตรียมพร้อมรับคำสั่งทันที
  • 06.00 น. พันตำรวจเอก ไพฑูรย์ มณีอินทร์ ประกาศเตือนทางโทรโข่งว่าจะมีการใช้แก๊สน้ำตา
  • 06.15 น. กำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล 12 กองร้อย เข้าปฏิบัติการตามแผน โดยนำกำลังเข้าทางด้านถนนราชวิถี แยกการเรือน, ถนนพิชัย แยกขัตติยานี เพื่อนำกำลังเข้ารักษาความปลอดภัยภายในรัฐสภา
  • 08.30 น. เกิดเหตุไฟดับภายในอาคารรัฐสภา โดยกลุ่มพันธมิตรฯได้ตัดสายไฟบริเวณด้านนอกรัฐสภา ทำให้บริเวณภายในรัฐสภาไฟดับ อย่างไรก็ตาม ภายในอาคารรัฐสภาได้ใช้ไฟสำรองจากเครื่องปั่นไฟแทน ซึ่งไฟฟ้าสำรองดังกล่าวจะสามารถใช้ได้เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
  • 09.27 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ออกจากบ้านพัก คาดว่าจะเดินทางมาที่รัฐสภา
  • 09.43 น. โรงพยาบาลวชิรพยาบาล แถลงแก๊สน้ำตา ทำขาขาดไม่ได้ ยันเหยื่อโดนระเบิด - สภาเลื่อนประชุมไปอีก 1 ชั่วโมง
  • 09.47 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาถึงสภา
  • 10.10 น. มติพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ร่วมประชุมสภา
  • 10.40 น. การประชุมรัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้ให้สมาชิกรัฐบาลกดบัตรแสดงตน เพื่อนับองค์ประชุมก่อนที่จะแถลงนโยบายรัฐบาล ปรากฏว่ามีสมาชิกรัฐสภาเข้าประชุมจำนวน 320 คน ซึ่งถือว่าครบองค์ประชุมแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อให้มีการลงคะแนนเพื่อดำเนินการแถลงนโยบายของรัฐสภา สมาชิกรัฐสภาจำนวน 307 คนเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย 2 คน และไม่ลงคะแนน 5 คน
  • 10.58 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้ประกาศนับองค์ประชุมอีกครั้ง พบว่ามีสมาชิกรัฐสภาร่วมประชุมจำนวน 320 คน ซึ่งถือว่าครบองค์ประชุมแล้ว จากนั้นได้มีการลงคะแนนให้เริ่มการแถลงนโยบายของรัฐ ปรากฏว่า มีสมาชิกรัฐสภาเห็นด้วยจำนวน 320 คน จึงสามารถเปิดประชุมแถลงนโยบายของรัฐบาลได้ ขณะนี้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เริ่มแถลงนโนบายรัฐบาล
  • 11.00 น. ตำรวจได้เสริมกำลังควบคุมสถานการณ์บริเวณรอบนอกรัฐสภา โดยเฉพาะถนนพิชัย ที่เป็นทางเดียวที่เปิดให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีเข้าไปแถลงนโยบายในรัฐสภา
  • 11.59 น. พันธมิตรฯ กลับมายึดพื้นที่ถนนอู่ทองในตัดกับถนนราชวิถีได้แล้ว หลังถูกสลายกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อเช้าวันที่ 7 ตุลาคมโดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ผลักดันกำลังตำรวจได้สำเร็จ
  • 12.00 น. พันธมิตรฯ ได้ระดมปาขวดน้ำบรรจุน้ำปัสสาวะเต็มขวดข้ามเข้ามาในรั้วสภา และอีกส่วนหนึ่งกำลังช่วยกันพลิกรถกรงขังของตำรวจจนคว่ำลงไป
  • 12.05 น. พันธมิตรฯ ได้เข้าปิดล้อมอาคารรัฐสภาอีกครั้ง หลังจากที่ถูกสลายการชุมนุมเมื่อเช้านี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูฝั่ง ถ.ราชวิถี จากนั้นพันธมิตรได้ใช้แผงเหล็กกั้นแล้วนำโซ่มาล่ามประตูและล็อกกุญแจหลาย ชั้นเพื่อไม่ให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาที่อยู่ภายในอาคารออกมาได้
  • 12.20 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวโจมตีนายกรัฐมนตรีว่าเป็นคนที่ไร้เกียรติ ไม่จริงใจ ไม่ทำตามที่ตกลงไว้ สภาทนายความออกแถลงการณ์ให้ตำรวจยุติการใช้ความรุนแรง
  • 12.25 น. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชาชน ออกแถลงการณ์ประณามพันธมิตรฯ ว่าได้กระทำความผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 28 ถือเป็นปรปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชนบุคคลซึ่งถูก ละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรองรับไว้ นอกจากนี้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กระทำความผิด มาตรา 112 และ 116 เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาลโดยใช้กำลังข่มขืน ประทุษร้าย เพื่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความ ปั่นป่วนในราชอาณาจักรหรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี
  • 12.59 น. ตำรวจเจ็บ 2 นาย จากการที่ปะทะกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณหน้ารัฐสภา ซึ่งตำรวจ 1 ใน 2 นายนี้ โดนด้ามธงเสียบท้องทะลุหลังด้วย และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า
  • 13.00 น. การะประชุมแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภาได้สิ้นสุดลง นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้ปิดการประชุม ขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ยังไม่สามารถออกจากอาคารรัฐสภาได้
  • 13.04 น. หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์สลายกลุ่มผู้ชุมนุม และยังเชื่อว่ารัฐบาลทำงานลำบากแต่ไม่ถึงขั้นยุบสภา
  • 13.28 น. โรงพยาบาลวชิระเปิดเผยจำนวนผู้ป่วยเพิ่มเป็น 56 ราย ด้าน แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ชี้เป็นเพราะ" ระเบิด" แน่นอน
  • 14.05 น. สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ออกจากรัฐสภา โดยปีนรั้วออกมาพร้อมผู้ติดตาม พร้อมกับเรียกประชุมด่วนที่กองบัญชาการกองทัพไทย
  • 15.00 น. ดต.ทวีป กลั่นเนียม สังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งถูกผู้ชุมนุมพันธมิตรใช้ด้ามธงปลายแหลมแทงเข้าที่ซี่โครงทะลุปอด พ้นขีดอันตรายแล้ว ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
  • 15.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เรียกผู้บัญชาการเหล่าทัพ ประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยนั่งเฮลิคอปเตอร์ตำรวจมาที่กองทัพไทย
  • 15.47 น. เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณหน้าพรรคชาติไทย โดยจุดที่ระเบิดเป็นรถจี๊ป เชโรกี ทะเบียน พต 4755 กทม. โดยตัวรถฉีกขาดทั้งหมด และมีผู้เสียชีวิตคาที่อยู่ข้างรถ โดยรถดังกล่าวเป็นของผู้ชุมนุม ทราบภายหลังผู้เสียชีวิตชื่อ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี เป็นน้องเขยของ การุณ ใสงาม
  • 15.58น. ตำรวจยิงระเบิดแก๊สน้ำตา เข้าใส่ฝูงชนบริเวณแยกสะพานซังฮี้จรดถึงแยกการเรือน เพื่อเตรียมเปิดทางให้ส.ส.ที่เข้าร่วมประชุมสภา ออกจากนอกบริเวณรัฐสภา ทางประตูพระที่นั่งวิมานเมฆ
  • 16.42 น. นาย ชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้ปีนรั้วสภาออกไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีอายุมากแล้ว โดยเจ้าหน้าที่พยายามประคองอุ้มนายชัยออกไปอย่างทุลักทุเล
  • 16.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมยิงระเบิดแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมถอยร่นมาจนถึงหน้าประตูสภาฝั่งถนนราชวิถี
  • 17.00 น. ศาลอาญาสั่งยกคำร้องกรณีที่ทนายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นคำร้องขอให้ศาลปล่อยตัวชั่วคราว พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องหาในความผิดฐานเป็นกบฏ โดยทนายอ้างว่าการจับกุมของพนักงานสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย
  • 17.05 น. หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงระเบิดแก๊สน้ำตาเพื่อสลายผู้ชุมนุมบริเวณประตูรัฐสภาให้ถอยร่นไปจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเปิดประตูรัฐสภาเพื่อเปิดทางให้ข้าราชการ ผู้สื่อข่าว รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ที่ติดค้างอยู่ภายใน ทยอยกันออกไปด้านนอกได้
  • 17.25 น. ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำวันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2551 ปิดที่ 528.71 จุด ลดลง 23.09 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น 16,313.39 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีราคาปิดเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 28 หลักทรัพย์ ลดลง 369 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 49 หลักทรัพย์
  • 17.39 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี แถลงที่กองบัญชาการกองทัพไทยว่ายังไม่เห็นใบลาออกของ พล.อ.เชาวลิต ยงใจยุทธ แต่ขณะนี้เป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้นที่รัฐสภา โดยประสานกับฝ่ายที่มีหน้าที่ดูแล แต่ไม่ใช่รัฐบาลจะแก้ไขฝ่ายเดียวได้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีความคิดจะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 2
  • 17.43 น. ตำรวจยิงระเบิดแก๊สน้ำตา กลุ่มพันธมิตรกระเจิงวิ่งเข้าสวนสัตว์ดุสิต ซึ่งมีทหารราบ ร.1 พัน 2 รอ. พร้อมทีมแพทย์ฉุกเฉินเข้ารักษา
  • 17.50 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เผยจะปฏิบัติภารกิจในการเยือนประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนต่อไป ส่วนสำหรับข้อเรียกร้องให้ลาออก หรือ ยุบสภานั้น นายสมชาย กล่าวว่า จะพิจารณาตามความเหมาะสม แต่ตราบใดที่อยู่ในหน้าที่ จะไม่ชะลอการทำงาน
  • 18.00 น. พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน และเพื่อนร่วมรุ่น จปร.7 กับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร เผยว่าเหตุการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปะทะตำรวจเป็นแผนของ พล.ต.จำลอง เตรียมไว้แล้ว เมื่อ พล.ต.จำลอง ถูกจับ ก็ให้คนเข้ามาในกรุงเทพฯ และเข้ามายึดรัฐสภา โดยพยายามสร้างสถานการณ์ให้เหมือนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ คือ เมื่อ พล.ต.จำลอง ถูกจับ สถานการณ์ก็รุนแรงขึ้น แต่ขณะนี้ไม่มีคนนำ ทำให้เหตุการณ์ไม่จบแบบนั้น สมัยนั้นมีตนและ พล.ท.พิรัช สวามิวัศดิ์ เพื่อนร่วมรุ่นเล่นด้วยเป็นผู้นำ แต่วันนี้ไม่มีคนทำต่อเนื่องทำแล้วหยุด
  • 18.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประสานรถพยาบาล เพื่อเข้ามารับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ที่ถูกยิงบาดเจ็บ จากการสาดกระสุนใส่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่จนถึงขณะนี้ รถพยาบาล ก็ยังไม่สามารถเข้าไปในอาคารรัฐสภาได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจรายแรก ที่ได้รับบาดเจ็บ จากการถูกยิงเข้าบริเวณไหปลาร้าด้านขวา มีการใช้มีดผ่าลูกกระสุนออก ซึ่งล่าสุด อาการปลอดภัยแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายหนึ่ง ที่ถูกยิงบริเวณราวนมด้านขวา ยังอยู่ในอาการอันตราย ซึ่งหน่วยพยาบาล กำลังเร่งปฐมพยาบาล และประสานรถพยาบาล ให้เข้ารับตัว
  • 18.30 น. สหภาพแรงงานการท่าเรือ นัดหยุดงานอีกรอบ 9 ต.ค.นี้ หลังไม่พอใจภาครัฐใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมพันธมิตร
  • 18.38 น. กองทัพภาคที่ 1 ส่งทหารเสนารักษ์ เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุสลายกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตร ขณะโฆษกกองทัพบกยืนยัน ทหารไม่ได้เลือกข้าง
  • 18.50 น. ภายหลังจากที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ไปรวมตัวกันบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ทำให้ตำรวจที่เข้าประจำการณ์อยู่บริเวณหน้า กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ตัดสินใจ ใช้ระเบิดแก๊สน้ำตายิงเข้าใส่ฝูงชนเป็นระยะ ๆ จนกลุ่มผู้ชุมนุม ต้องถอยร่นไปจนถึงบริเวณหน้าวัดเบญจมบพิตร ขณะเดียวกันรถพยาบาลจำนวนมาก วิ่งเข้าไปในที่เกิดเหตุ และนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว
  • 18.52 น. โฆษกกระทรวงต่างประเทศ ยืนยันว่าสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศขณะนี้ ยังไม่จำเป็นต้องเชิญเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย มาทำความเข้าใจ
  • 18.57 น. พันธมิตรยกทัพจากรัฐสภา กลับเข้าทำเนียบรัฐบาล พร้อมประณามรัฐบาล เป็นสภาเลือดแถลงนโยบายท่ามกลางการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม
  • 19.00 น. พลตำรวตรี โกสินทร์ บุญสร้าง ถูกผู้ชุมนุมทำร้ายจนสลบไป
  • 19.06 น. ลำเลียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย ที่ถูกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทำร้าย มาที่โรงพยาบาล ขณะผู้ชุมนุมขับรถกระบะเข้าชนรองสารวัตร ที่แยกอู่ทองใน
  • 19.28 น. ตำรวจและผู้ชุมนุมกว่าร้อยนายตรึงกำลังที่ ถนนศรีอยุธยา หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล
  • 19.39 น. สวนสัตว์ดุสิตเกรงผลกระทบการสลายการชุมนุมย้ายสัตว์หนี เนื่องจากสัตว์บางชนิดอาจตกใจเสียงการยิงระเบิดแก๊สน้ำตา จนวิ่งชนกรงบาดเจ็บหรือล้มตาย
  • 19.42 น. ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุ การยิงระเบิดแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมของตำรวจ เป็นการป้องกันตัวเองตามสถานการณ์พร้อมยืนยัน แก๊สน้ำตาไม่ทำอันตรายถึงกับทำให้ใครขาขาด
  • 20.02 น. บรรยากาศเหตุการณ์ปะทะกันระหว่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตร บริเวณแยกถนนศรีอยุธยา ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วม 100 นาย คอยสกัดกั้นหลังรั้วลวดหนาม บริเวณถนนที่มุ่งหน้ามาสู่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งด้านตรงข้ามมีกลุ่มพันธมิตรจำนวนประมาณ 200 คน คอยตะโกนขับไล่เป็นระยะ ๆ นอกจากนี้ มีกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พันธมิตร ที่นำผ้าปิดพรางใบหน้า และนำเครื่องขยายเสียงมาปราศรัยโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะ ๆ ด้วย
  • 20.18 น. ทหารตรึงกำลังเข้มหน้ากองทัพบก และแยก จปร.รอเสริมทัพตำรวจ หากคืนนี้สถานการณ์ชุมนุมบานปลาย
  • 20.30 น. สมาชิกวุฒิสภาจำนวน 40 คน ร่วมกันแถลงที่โรงแรมปริ๊นเซส โดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล สมาชิกวุฒิสภากทม. กล่าวว่า ขอตั้งคำถามกับรัฐบาลว่า ทำไมยิงแก๊สน้ำตาและยิงระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาออกมาจากรัฐสภาแล้ว ถือว่าจงใจฆ่าประชาชน ทำให้วิกฤตลุกลาม นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกเพื่อยุติความวุ่นวายที่เกิดขึ้น รัฐบาลเข้าและออกสภาด้วยรอยเลือด ขัดกับนโยบายที่รัฐบาลแถลง และรัฐบาลต้องสอบสวนเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่ใช้ความรุนแรงด้วย ทั้งนี้กลุ่ม สมาชิกวุฒิสภาจะตั้งวอร์รูมที่โรงแรมปริ๊นเซสหลานหลวงอีกครั้งในวันที่ 8 ตุลาคม
  • 20.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้ายังคงมีกลิ่นแก๊สน้ำตาคละคลุ้งอยู่ ขณะที่พันธมิตรฯ พยายามกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง โดยได้พยายามใช้ผ้าปิดตามช่องท่อระบายน้ำเพื่อให้แก๊สฟุ้งกระจายออกมา พร้อมกับนำลวดหนามมากั้นเป็นแนวไว้
  • 20.50 น. ตำรวจตั้งข้อสังเกตเจ้าหน้าที่ถูกยิง อาจเป็นฝีมือพันธมิตร หลังวิเคราะห์กระสุนที่ใช้ยิง เป็นอาวุธปืนที่หายไปจากทำเนียบ
  • 20.50 น. พันธมิตร หน้ารัฐสภา ล่าถอยไปสมทบที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ทิ้งไว้เพียงขยะเกลื่อนกลาด พร้อมเศษซากรถที่ถูกทำลาย
  • 20.56 น. ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บที่ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล พุ่งถึง 143 ราย มีตำรวจบาดเจ็บสาหัส 3 ราย
  • 21.18 น. สรุปหลังปะทะเดือดระหว่างตำรวจกับกลุ่มพันธมิตรพบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย เจ็บอีก 225 ราย กระจายเข้ารักษาโรงพยาบาลหลายแห่ง
  • 21.30 น. ตำรวจเริ่มตั้งแถวตรึงกำลังบริเวณระหว่างหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล กับ ลานพระบรมรูปทรงม้า
  • 21.33 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกลุ่มพันธมิตรฯ ยิงได้รับบาดเจ็บภายในอาคารรัฐสภาว่า จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนอัตโนมัติ และตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นปืนที่ถูกขโมยไปที่ทำเนียบรัฐบาล นอกจากนี้ ยังได้วิงวอนให้ผู้ชุมนุมพันธมิตรยุติการเคลื่อนไหว เพราะขณะนี้เป็นเวลากลางคืน เพราะมือที่ 3 อาจเข้ามาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายได้ พร้อมกันนี้จะไม่ยอมให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกยึดกองบัญชาการตำรวจนครบาลเด็ดขาด เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการ และเป็นกองบัญชาการตำรวจทั่วกรุงเทพมหานคร จึงต้องรักษาไว้อย่างเต็มที่
  • 22.10 น. ตำรวจเริ่มยิงระเบิดแก๊สน้ำตาเข้าใส่พันธมิตรฯ บริเวณแยกลานพระบรมรูปทรงม้า เนื่องจากพันธมิตรเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้กองบัญชาการตำรวจนครบาล หลังจากนั้นมีการยิงใส่อีก 4 นัด รวมเป็น 5 นัด ทำให้ผู้ชุมนุมต้องถอยร่นออกไป ตำรวจจึงหยุดยิงแก๊สน้ำตา
  • 22.20 น. มีเสียงคล้ายระเบิดเสียงดังขึ้นสามนัดบริเวณแยกลานพระบรมรูปทรงม้าตัดไปยังหน้าบช.น. 2นัด จากนั้นตำรวจที่ตั้งแนวอยู่ได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม 5 นัดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การ์ดได้ควบคุมตัวเด็กช่างกลได้สองนาย ซึ่งเป็นต้นตอของระเบิดเสียงดังกล่าว และเมื่อสอบถามภายหลังพบว่าเด็กทั้งสองเกิดความแค้นที่เพื่อนถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บในช่วงเช้า
  • 22:20 น. ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับห้องผ่าตัดซึ่งมีไม่พอรองรับคนเจ็บ
  • 22.21 น. กลุ่มพันธมิตรฮือปิดล้อมรถถ่ายทอดสดช่อง 3 และทีวีไทย ให้ออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังถูกแกนนำกล่าวหาว่ารายงานข่าวไม่เป็นความจริง จนหวิดวางมวย "กมลพร วรกุล" พิธีกรสาวต้องเข้าเคลียร์ เรื่องจึงยุติ
  • 22:34 น. ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล เหตุการณ์ตึงเครียดยิงระเบิดแก๊สน้ำตาอีกนับ 10 ลูกใส่ผู้ชุมนุม
  • 23.15 น. ตำรวจยังคงยิงระเบิดแก๊สน้ำตาเข้าใส่พันธมิตรฯ เป็นระยะ ๆ แต่เป็นการยิงขู่ ขณะที่พันธมิตรเข้ามาร่วมชุมนุมบริเวณแยกพระบรมรูปมากขึ้น
  • 23.50 น. เจ้าหน้าที่หยุดยิงหลังพันธมิตรฯเริ่มนำกลุ่มชนกลับทำเนียบรัฐบาล

วันที่ 30 ตุลาคม

  • 03.20 น. ที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ที่บริเวณปีกซ้ายตรงข้ามกับสำนักปลัดบัญชี กองทัพบก ได้มีมีชายฉกรรจ์ 2 คน ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาจอดซุ่มอยู่ที่เชิงสะพานมัฆวานฯ จากนั้นได้ขว้างระเบิดสังหารเข้าใส่จุดรักษาการณ์ของพันธมิตรฯ ทำให้เกิดเสียงดังสนั่น และสะเก็ดระเบิดทำให้มีผู้บาดเจ็บนับสิบราย โดยรายที่ทุพพลภาพได้แก่เสถียร ทับมะลิผล เสียชีวิตวันที่ 14 กรกฎาคม 2555[10]

แหล่งที่มา

WikiPedia: การชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภาไทย 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551 http://www.bangkokbiznews.com/2008/10/13/news_3029... http://hilight.kapook.com/view/29640 http://prachatai.com/journal/2013/10/49129 http://in.reuters.com/article/worldNews/idINIndia-... http://news.sanook.com/politic/politic_309706.php http://www.siamintelligence.com/chawalitr-uncomfor... http://www.talkystory.com/site/print.php?id=4233 http://tnews.teenee.com/politic/27905.html http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID... http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?Ne...